สำนักงานเจ้าคณะตำบลโคกกรวด เขต ๒,วัดหนองรังกา ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา
วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557
10 เทคนิคสุดเด็ดที่จะทำให้งานคุณเสร็จก่อนเวลา สบายใจ และมีประสิทธิภาพ
1. สร้างพลังแอคทีฟ พลังที่ว่านี้สร้างได้ไม่ยากแค่คุณใส่ความรู้สึกกระตือรือร้น หรือตื่นเต้นที่จะได้ทำงานนั้นเพียงเท่านี้พลังแอคทีฟก็จะส่งให้คุณอยาก เริ่มต้นลงมือทำก่อนก็หมายถึงโอกาสที่งานนั้นจะสำเร็จก็มีมากกว่าคนที่ยัง ไม่ลงมือทำเสียที
2. บรีฟตัวเองก่อน งานจะเสร็จเร็วได้ต้องมีการวางแผนที่ดีคุณจึงควรทำ To-do list จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำเพื่อที่จะไม่ต้องทำงานซ้ำไปซ้ำมา หรือผิดพลาดเพราะหลงลืมอะไรไป
3. ไม่นิ่งนอนใจแม้คุณจะมีเวลามากพอที่จะทำงานโดยไม่รีบเร่ง แต่ก็ไม่ควรทำตัวชิลล์ปล่อยเวลาผ่านไป จนสุดท้ายก็ต้องทำอย่างเร่งรีบ อย่าลืมว่าทุกคนมีเวลาเท่ากันอยู่ที่ว่าคุณจะบริหารมันอย่างไร
4. กำหนดเส้นตาย กระตุ้นตัวเองด้วยการกำหนด Deadlineของแต่ละขั้นตอน และทำให้ได้ตามนั้นสุดท้ายคุณก็จะทำงานเสร็จสมบูรณ์ตามเวลาที่ตั้งใจไว้
5. รู้จักกระจายงาน คนเก่งไม่ใช่คนทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวแต่เป็นคนที่รู้จักกระจายงานไป ยังคนที่เก่งในแต่ละส่วนเมื่องานแต่ละส่วนสามารถทำได้พร้อมกันงานย่อมเสร็จ เร็วกว่าการรอให้คนเพียงคนเดียวทำ
6. ควานหาทางลัด ผลลัพธ์แบบเดียวกันสามารถออกมาได้จากหลากหลายวิธี ดังนั้น ต้องเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพด้วยมีเครื่องมือหรือหนทางไหนบ้างที่ช่วยให้ ทำงานได้เร็วขึ้นต้องรู้จักนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์
7. กำจัดสิ่งรบกวน สิ่งที่ทำให้คุณวอกแวกและเสียสมาธิได้ง่ายที่สุดคือ โทรศัพท์ อีเมล และวงสนทนาควรจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปราศจากสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้คุณมีสมาธิกับงานอย่างเต็มที่
8. แผนรวนเร่งแก้ไข หากอะไร ๆไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ อย่าฝืนทำแบบเดิม เพราะยังมีวิธีอีกตั้งมากมายที่เป็นไปได้กลับตัวให้ไว แล้วไปทางอื่นโดยเร็ว
9. อยากสมองไวต้องพักคนที่โหมงานจนไม่ได้พักผ่อนนั้น แทนที่งานจะเสร็จเร็วกลับผิดพลาด เพราะร่างกายไม่พร้อมการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้สมองแล่น คิดงานไว ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. ฝักใฝ่ความสำเร็จหมั่นสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง แม้งานจะมีอุปสรรค แต่หากคุณคิดบวกและฝันถึงความสำเร็จ คุณจะมีพลังและทำมันให้สำเร็จจนได้
เลิกซะ! ข้ออ้างที่ทำให้งานไม่เสร็จ
• เดี๋ยวค่อยเริ่มยังไม่มีอารมณ์
• พรุ่งนี้ค่อยมาทำ
• งานเยอะมากยังไม่มีเวลาทำ
• ขอเช็คเฟสบุ๊กก่อน
• เช็คอีเมลแป๊บเดียว
• ยังไงก็ทันเวลาเหลืออีกเยอะ
• คิดไม่ออกไปหาอะไรกินดีกว่า
• ลืมไฟล์งานไว้ที่บ้าน
• ลืมThumb Drive ไว้ที่ออฟฟิศ
• คอมแฮงก์ยังไม่ได้เซฟ
คำไว้อาลัยงานพระราชทานเพลิงศพนายแพทย์ สุรพล รักทุม
ท่านเป็นหมอ ทำงานรักษาคนไข้มาตลอดชีวิต เปิดคลีนิคของตัวเอง ร่วมธุรกิจกับพอล-ภัทรพล
เปิดบริษัทผลิตยา และลงทุนกับยุรนันท์ ภมรมนตรี(คงรู้จักดี)
เปิดคลีนิคสุขภาพ เป็นที่ปรึกษาให้เหล่าดารา ไปฉีดสเตมเซลล์เพื่อรักษาสุขภาพชลอความแก่ มีลูกค้าเป็นดารามากมาย และเงินทองก็มีมากเช่นกัน แต่กลับพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งที่ตับ และใช้เงินที่หามาทั้งชีวิตพยายามรักษาตัวเองด้วยการไปผ่าตัดเปลี่ยนตับที่เมืองนอก กลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน ตรวจพบมะเร็งรุกลามมาที่ปอด ก็ยังพยายามหาวีธีต่อสู้กับมะเร็งร้ายเรื่อยมา สุดท้ายก็ไม่อาจเอาชนะมันได้
ท่านเสียชีวิตในที่สุด ท่านฝากให้พวกเราทั้งหลายระลึกไว้ว่า
1. อย่าเอาแรงกดดัน มาเป็นแรงขับเคลื่อน ใช้ร่างกายจนเกินกำลัง เท่ากับทำร้ายร่างกาย
2. อย่าลืมว่าสุขภาพดี คือ ต้นทุน ร่างกายไม่แข็งแรง คุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างไร
3. อย่าเห็นชื่อเสียง และลาภยศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ชื่อเสียงลาภยศ เปรียบดังหมอกควัน สุดท้ายก็มลายสูญ
4. อย่าคิดว่าหมอจะช่วยชีวิตคุณได้ หมอที่ดีคือตัวคุณ ดูแลชีวิตดีกว่าให้ใครมาช่วยชีวิต
5. อย่าคิดว่าอุทิศให้แล้วจะต้องได้รับตอบแทนเสมอไป ให้อะไรกับใครอย่ารอให้เขาทดแทนบุญคุณ
6. อย่าคิดว่ารับราชการแล้วจะเหนือกว่าชาวบ้าน ถึงเวลาเกษียณก็ต้องเป็นชาวบ้านเหมือนเดิม
7. อย่ามองข้ามคนที่มีบุญสัมพันธ์กับคุณ เมื่อคุณตกอับ คุณจึงจะรู้ว่าใครบ้างที่ไปจากคุณ และตอนนั้นคนรู้ใจยิ่งหายาก
8. อย่าเห็นการทักทายของใครเป็นสิ่งน่ารำคาญ คนที่ส่งข้อความให้คุณเสมอเพราะคุณยังอยู่ในใจเขา
คำถามที่น่าคิด คุณมีเงิน แต่คุณมีค่าไหม? เรามักแสวงหาสิ่งที่เราคิดว่า มีค่ามากที่สุดในชีวิต แต่สุดท้าย ทุกคนหนีไม่พ้นอนิจจัง หมั่นคิดดี พูดดี ทำดี คุณค่าของชีวิต สร้างได้โดยไม่ต้องใช้(Party Crowd) สุขภาพดีมาจากไหน ? (Banana)(Papaya)(Raspberry)(Orange)(Coconut)(Cherry)(Papaya)(Apple)(Banana)
วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557
คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
โดยทดสอบด้วยการสแกนสมองพระที่ทำสมาธิ และได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นจริง
+ หลักความเชื่อของศาสนาพุทธคือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุขนั้น ก็คืออยู่กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้
ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด
+ ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตา
กรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น
+ อริยสัจ4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและบอกไว้ด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า
"ความสุข" เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด "ความทุกข์" ได้แล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้น
+ อุปสรรคของความสุขก็คือแรงปรารถนาและตัณหา คนเราจะมีความสุขไม่ขึ้นอยู่กับว่า"มีเท่าไร"
แต่ขึ้นอยู่ที่ว่า เรา "พอเมื่อไร" ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามี หรือเราได้...
+ ดังนั้นวิธีจะมีความสุข อันดับแรกต้อง "หยุดให้เป็น และ พอใจให้ได้" ถ้าเราไม่หยุดความอยากของเราแล้วละก็
เราก็จะต้องวิ่งไล่ตามหลายสิ่งที่เรา "อยากได้" แล้วนั่นมันเหนื่อย และความทุกข์ก็จะตามมา...
+ ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุขคือ การมองทุกอย่างในแง่บวก ชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้องเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดี
ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราต้องเริ่มด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก เพื่อใจเราจะได้เป็นบวก
คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เราได้ทำ
+ ข้อต่อมาคือการให้ หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือเงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ความเมตตากรุณาต่อกัน
ให้อภัยทั้งตัวเองและคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความสุข....
+ การปล่อยวางให้ได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด
จำไว้ว่ามันจะโดนเวลาพัดพามันไปจากเรา ไม่ช้าก็เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที้เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
ทุกคนต้องได้ผ่านบททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...
+ ทำตนเองให้สดใส ด้วยการยิ้มให้ตนเอง ทำคนอื่นให้สดใสได้ ด้วยการยิ้มให้เขา การยิ้มไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
แต่สร้างความสดใสได้มาก ทำให้เราเป็นสุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ใจของเรานี่เอง
ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน
นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก
การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก
เขาด่าว่าเราไม่ถึงนาที เขาอาจลืมไปแล้วด้วย แต่เรายังจดจำ ยังเจ็บใจอยู่... นี่เราฉลาดหรือโง่กันแน่
บ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วมีปัญหา ไม่รู้จะบ่นหาอะไร
เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ทำไมต้องเศร้าหมอง
ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ
อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิต
แม้จะฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธไม่ได้ แต่ฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธบ่อยได้ ฝึกให้เป็นผู้รู้จักให้อภัยได้
การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา
การชอบพูดถึงความดีของเขา คือความดีของเรา การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา
โทษคนอื่นแก้ไขอะไรไม่ได้ โทษตนเองแก้ไขได้
แก้ตัวไม่ได้ช่วยอะไร แต่แก้ไขช่วยให้ดีขึ้น
การนอนหลับเป็นการพักกาย การทำสมาธิเป็นการพักใจ คนส่วนใหญ่พักแต่กาย ไม่ค่อยพักใจ
รู้จักทำใจให้รักผู้บังคับบัญชา รู้จักทำใจให้รักลูกน้อง รู้จักทำใจให้รักเพื่อนร่วมงาน สวรรค์ก็อยู่ที่ทำงาน
เกลียดผู้บังคับบัญชา เกลียดลูกน้อง เกลียดผู้ร่วมงาน นรก ก็อยู่ที่ทำงาน
การที่เรายังต้องแสวงหาความสุข แสดงว่าเรายังขาดความสุข
แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสุขได้เอง ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาที่ไหน
อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน นั้นดี.... อ่อนข้อให้เขาบ้างก็ยังดี แต่...อ่อนแอนั้น ไม่ดี
ในการคบคน ศิลปะใดๆ ก็สู้ความจริงใจไม่ได้ จงประหยัด คำติ แต่อย่าตระหนี่ คำชม
อภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย
ถ้าคิดทำความดี ให้ทำได้ทันที
ถ้าคิดทำความชั่ว ให้เลิกคิดทันที
ถ้าเลิกคิดไม่ได้ ก็อย่าทำวันนี้
ให้ผลัดวันไปเรื่อยๆ
ถึงจะรู้ร้อยเรื่องพันเรื่อง ก็ไม่สู้รู้เรื่องดับทุกข์
โลกสว่างด้วยแสงไฟ ใจสว่างด้วยแสงธรรม
แสงธรรมส่องใจ แสงไฟส่องทาง
ผู้สนใจธรรม สู้ผู้รู้ธรรมไม่ได้
ผู้รู้ธรรม สู้ผู้ปฎิบัติธรรมไม่ได้
ผู้ปฎิบัติธรรม สู้ผู้ที่เข้าถึงธรรมไม้ได้
มีทรัพย์มาก ย่อมมีความสะดวกมาก
มีธรรมะมาก ย่อมมีความสุขมาก
เมื่อก่อนยังไม่มีเรา
เราเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก
จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา
วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ดีมากสำหรับทุกครอบครัว
ดีมากสำหรับทุกครอบครัว |
บ้านคือที่วางใจ คือที่รองรัก
จาก 靜思語
หนุ่มงง ไม่นึกว่าเจ้าหล่อนจะเอาจริง ผัวเมียทะเลาะกันบ่อย อย่างมากหล่อนเพียงงอนไม่พูดด้วย หรือกลับบ้านแม่ไปสักพัก จากนั้นก็คืนมาเป็นปกติ ทว่าครั้งนี้ เรื่องไม่เล็กเสียแล้ว เมียบอกให้เขาไปงานประชุมผู้ปกครองของลูกสาว เขาบอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา เมียว่ายุ่งอะไรทั้งวัน ไม่เคยใส่ใจฉันกับลูกเลย เราเลิกกันแล้วกัน
หนุ่มไม่คิดว่าจะมีปัญหา เขาถือว่าต้องเห็นงานสำคัญกว่าครอบครัว และที่ยุ่งวุ่นนั้นก็เพื่อบ้านนี้ไม่ใช่หรือ ตนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ในนาทีนี้ บ้านว่างเปล่าเงียบเชียบไร้ลูกไร้เมียนี้มันช่างไม่เป็นบ้านเอาเสียเลย ความสำเร็จของเขา ถ้าไม่มีเมียร่วมปัน ก็ไร้ความหมาย
วันรุ่งขึ้นเขาไปเยี่ยมพ่อแม่ ทั้งสองงงมาก ถามว่าทำไมมีเวลากลับบ้าน คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ? ทะเลาะกับแม่อีหนูหรือ? คำถามเป็นชุดทำให้เขาละอาย เขาคงกลับบ้านน้อยเกินไปกระมัง? แต่พ่อแม่ตื่นเต้นยินดีกันมาก พ่อรีบออกไปจ่ายตลาด แม่อยู่บ้านนั่งคุยกับเขา หาขนมถั่วต้มให้กิน แต่ไม่ทันนั่ง เสียงโทรศัพท์ดัง เขาได้ยินเสียงพ่อดังลอดมาจากโทรศัพท์ว่า "ลืมบอกไป ชาเก๊กฮวยน้ำผึ้งที่ชงไว้ให้น่ะ อยู่บนธรณีหน้าต่าง เธอรีบดื่มซะ เดี๋ยวจะเย็น"
แม่วางหู ดื่มชาไปอึกเดียว โทรศัพท์ดังอีก พ่อนั่นแหละ "เราต้องจ่ายค่าน้ำแล้วใช่ไหม? ฉันลืมเอาบิลมา ช่วยบอกเลขบิลให้หน่อย จะแวะไปจ่าย" วางหูไม่ทันไร พ่อโทรฯ มาอีก เสียงดีใจทีเดียว "เธอชอบกินปลาสีนวลใช่ไหม เดี๋ยวซื้อไปให้นึ่งกิน"
ยี่สิบนาที พ่อโทรฯ 3 ครั้ง แม่ก็รับและคุยอย่างไม่รู้หน่าย เขาอดบ่นไม่ได้ว่า ทำไมพ่อจุกจิกขึ้นทุกที? ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องโทรฯ กลับมาบอกไม่ได้หรือ?
แม่ยิ้มแล้วพูดว่า "เด็กโง่เอ๊ย เจ้าจะไปรู้ใจพ่อได้ไง? แกไม่ได้จุกจิก แต่แกวางหัวใจไว้ที่บ้าน มีที่ฝากฝังมีความห่วงหา จึงได้โทรฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวพ่ออยู่นอกบ้าน แต่ใจอยู่ในบ้าน เรื่องในบ้านไม่มีใหญ่เล็ก ทุกอย่างล้วนห่วงใย เจ้าอย่าคิดว่าเอาเงินเข้าบ้านก็พอ บ้านไม่ใช่ที่ที่วางเงิน แต่เป็นที่ที่วางใจ มีแต่เอาใจวางไว้ที่บ้าน ความรักกับความสุขจึงจะอยู่ที่บ้าน เจ้าเข้าใจไหม?"
เขาเห็นสายตาลึกล้ำของแม่ เข้าใจในบัดดล คิดถึงตนเอง ไม่เคยโทรศัพท์กลับบ้าน แม้แต่เมียโทรฯ หาก็รีบตัดสาย คิดถึงที่ตัวเองไปงานไปกินกับหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานจนดึกดื่น ไฟที่บ้านก็สว่างคอยเขาจนดึกดื่น แต่เขาไม่เคยคิดถึงความเดียวดายของเธอ ลูกอายุหกขวบ ขอให้เขาพาเที่ยว แต่คำมั่นสัญญาของเขาไม่เคยเป็นจริง
เพราะงานยุ่ง หรือเพราะว่าไม่เคยเอาใจวางไว้ที่บ้านเล่า?
คืนนั้น เขาไปรับเมียกลับ เธอรีรอไม่ยอมกลับ เขารีบอธิบายว่า จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ก่อนนี้ฉันละเลยเธอ ละเลยบ้านของเรา ฉันคิดว่าเพียงแค่ส่งเงินให้ไม่ขาดก็จะรับประกันความสุขของเรา แต่ฉันเกือบทำความรักหล่นหาย ต่อไปนี้ ฉันจะเอาใจวางไว้ที่บ้าน เอาบ้านวางไว้ในใจ เธอกลับบ้านกับฉันเถอะนะ?
เมียไม่ตอบ ค่อยๆ เดินเข้าหาเขา น้ำตาร่วง
ถูกต้องแล้ว บ้านคือที่วางใจ คือที่รองรัก
ใช่แล้ว งานยุ่ง ไม่อาจเป็นเหตุผล ใจอยู่ รักอยู่ มีห่วงมีใย ความสุขจึงเกิดได้ ไม่เสื่อมสลาย
ภูมิปัญญาตะวันออก
ภูเขามีความสูง
น้ำมีความลึก
ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกัน เหมือนแต่ละคนก็มีข้อดีของตน
เมฆมีความอ่อนโยนของเมฆ
ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบกัน
คนก็มีบุคคลิกของตัวเอง สิ่งที่เห็นว่าสนุกก็ไปตามหา
สิ่งที่เห็นว่าคุ้มค่าก็ไปเฝ้ารอ
สิ่งที่เห็นว่าเป็นความสุข
ก็ควรหวงแหนไว้
ปฏิบัติตามจิตได้...ก็ไม่เสียใจในภพภูมิมนุษย์นี้....
ชีวิตคนมี 1 ทางเดินของตน
แต่มีของมีค่าอยู่ 2 อย่าง
สุขภาพกาย
สุขภาพจิต
ชีวิตคนมี 4 ทุกข์
มองไม่ทะลุ
สละไม่ลง
แพ้ไม่เป็น
ปล่อยวางไม่ได้
คนมีทรัพย์สมบัติอยู่ 6 สิ่ง
ร่างกาย.
ความรู้.
ความฝัน.
ทัศนคติ.
ความเชื่อมั่น..
ความกล้าหาญ
วันนี้เป็นวันเพื่อนแห่งโลก.
ส่งให้เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ
คิดถึงใคร.
ส่งให้คนนั้น!
คนจีนสอนลูกหลาน
คนจีนสอนลูกหลาน |
มี 5 คำ ที่ไม่ควรพูด และสอนตัวเรากับลูกหลานว่าไม่ควรพูด
1."ยาก" พอพูดคำว่ายาก จะเป็นการบล็อคความสามารถทันที
2."ทำไม่ได้" จะเป็นการขับไล่ตัวจากสิ่งที่ทำ หรือปิดกั้นการเรียนรู้
3."ท้อ" เพราะเพียงคำนี้ผุดขึ้น พลังทั้งมวลทั้งร่างกายและจิตใจจะถดถอยสูญสิ้น
4."ขี้เกียจ" ไม่ควรแม้แต่พูดเล่น เพราะจะทำให้สร้างความไม่รับผิดชอบ
5."เหนื่อย" พอพูดคำนี้ออกมา ร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการอ่อนแอลงทันที
เป็น Psychology ที่ถูกต้องมาก สำหรับคนเราทุกคน และตรงกับที่พุทธศาสนิกชนพูดกันว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว"
คือเครื่องมือรับปัญหาที่ดีที่สุด