วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พิธีบำเพ็ศกุศลศพพระอธิการสมศักดิ์ กตปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดจิราธิวัฒน์

น้อมถวายความอาลัย
พระอธิการสมศักดิ์ กตปุญโญ
(สมสักดิ์ คงมา)
อดีตเจ้าอาวาสวัดจิราธิวัฒน์(โป่งแมลงวัน)
ตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562
เวลา 16.00 น. ประชุมเพลิง
************************

พิธีบำเพ็ศกุศลศพพระอธิการสมศักดิ์ กตปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดจิราธิวัฒน์
พิธีบำเพ็ศกุศลศพพระอธิการสมศักดิ์ กตปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดจิราธิวัฒน์
กำหนดการบำเพ็ญกุศล
วันจันทร์ 9-วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562
เวลา 18.30 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์
เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรมทุกคืน
     ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร
วันเสาร์ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562
เวลา 10.00 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สวดพระพุทธมนต์ 10 รูป
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล 100 รูป
เวลา 12.00 น. สวดมาติกาบังสุกุล
เวลา 14.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดย พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึง พระอารามหลวง
เวลา 15.00 น. พิธีทอดผ้าบังสุกุล
เวลา 16.00 น. ประชุมเพลิง
จึงกราบเรียน เรียนเชิญท่านมาด้วยความเคารพนับถือ
แผนที https://goo.gl/maps/s3XZEJTeEUBAzStr9

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

เขตปกครองสงฆ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา

เจ้าคณะอำเภอเมืองนครราชสีมาพระโสภณปริยัติวิธาน (สนั่น รตนโชโต ป.ธ.๖) วัดสะแกโทร. ๐ ๔๔๒๖ ๗๙๓๐ , ๐๘ ๑๐๖๘ ๘๘๙๙
เลขานุการพระครูศรีปริยัตยารักษ์วัดสะแก
รองเจ้าคณะอำเภอเมืองนครราชสีมาพระครูสุนทรคุณวัตร (ทวี ปญฺญาธโร)วัดประมวลราษฏร์
เลขานุการพระใบฎีกา สุวัฒน์ วชิโรวัดประมวลราษฏร์
รองเจ้าคณะอำเภอเมืองนครราชสีมา (๒๕๖๑)พระครูปริยัติธรรมภาณี (สุรวุฒิ ป.ธ.๔)วัดดอนขวางโทร. ๐๘ ๑๐๖๖ ๑๖๒๖
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๑ พระครูวิริยธรรมานุศาสก์ (สมจิต พุทฺธวิริโย)วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๒ พระครูปทุมธรรมวิมล (จอย สุตฺธมฺโม)วัดหนองบัวรอง
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๓ พระครูอุดมวรรโณภาส (เนตร )วัดทุ่งสว่าง
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๔ (๒๕๓๐) พระครูสิริอรุโณภาส (อรุณ โอภาโส ป.ธ.๕)วัดหัวสะพาน
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๕ พระครูโวทานธรรมคุณ (ประเสริฐ คเวสโก)วัดต่างตา
เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๖ พระครูประทีปธรรมวัฒน์ (สุวัฒน์ )วัดกองพระทราย
เจ้าคณะตำบลโพธิ์กลาง - ไชยมงคล พระครูศีลวัตรวิสุทธิ์ (บุญธรรม ปิยวณฺโณ)วัดศาลาเย็น
เจ้าคณะตำบลหัวทะเล พระครูบริหารธรรมนาถ (อำนวย นาถกโร)วัดตะคองเก่า
เจ้าคณะตำบลมะเริง พระครูวิมลธรรมประสิทธิ์ (บรรจบ )วัดกระทอน
เจ้าคณะตำบลหนองระเวียง พระครูวิสุทธิ์เขมคุณ (ทอง )วัดโตนด
เจ้าคณะตำบลบ้านโพธิ์ พระครูพนมวนาภิวัฒน์ (เลี่ยม ธมฺมโชโต)วัดพนมวันท์
เจ้าคณะตำบลจอหอ พระครูไพโรจน์ศีลคุณ (เสริม ป.ธ.๓)วัดบึงทับช้าง
เจ้าคณะตำบลโคกสูง พระครูถาวรคุณากร (จันทร )วัดสว่างอารมณ์
เจ้าคณะตำบลพุดซา พระครูโฆสิตวรธรรม (หนู )วัดลำโพง
เจ้าคณะตำบลพลกรัง พระครูสุตปัญญาทร (สุทธิรักษ์ ป.ธ.๓)วัดสีมุมบูรพาราม
เจ้าคณะตำบลโคกกรวด เขต ๑ พระครูประทีปปัญญาวุฒิ (ประทีป ปญฺญาทีโป)วัดหนองเป็ดน้ำ
เจ้าคณะตำบลโคกกรวด เขต ๒ พระครูวิสิฐสุตาลังการ (ประเสริฐ สนฺตจิตฺโต ป.ธ.๓)วัดหนองรังกา
เจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ พระครูอุดมสีลพรต (หวาน )วัดศรีษะละเลิง
เจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ พระครูอุดมสีลพรต (หวาน )วัดศรีษะละเลิง
เจ้าคณะตำบลหนองจะบก - ปรุใหญ่ พระครูวรรณธรรมคุณ (สมาน )วัดคนชุม
เจ้าคณะตำบลหมื่นไวย พระครูพินิตศุภการ (ฉาย ป.ธ.๓)วัดเวฬุวนาราม
เจ้าคณะตำบลสุรนารี พระมหาวิเชียร อคฺคธมฺโมวัดราชสีมาราม
เจ้าคณะตำบลหนองไข่น้ำ พระครูวิจิตรธรรมภิยุตวัดบ้านโกรก

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข เทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา 2019

          
  รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข เทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกรมการศาสนา ได้ร่วมกับหน่วยงานระดับกระทรวง ๒๐ กระทรวง คณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา ร่วมกันจัดงานพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ และถวายเป็นพุทธบูชา โดยเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกันรักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุขทุกประเภทตลอดพรรษา ในส่วนภูมิภาค มีการจัดกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ณ วัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ
จังหวัดนครราชสีมา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา ได้จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช เพื่อร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาและประเพณีที่ดีงามของไทย ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยจัดกิจกรรมประกวดต้นเทียนพรรษา การประกวดขบวนแห่เทียน การประกวดประดิษฐ์ต้นเทียน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ชมสุดยอดขบวนรถแห่เทียนพรรา แห่รอบเมืองโคราช ระยะทางกว่า ๗ กิโลเมตร ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และถนนรอบบริเวณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง
           ทั้งนี้ วันอาสาฬหบูชา คือ วันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และ ๑ ใน ๕ คือ โกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งในปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ ตรงกับวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ส่วนวันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุสงฆ์ต้องอธิษฐานอยู่ประจำ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งระหว่างฤดูฝน ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์ได้จาริกไปเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนในสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งในฤดูฝน ชาวบ้านจึงพากันตำหนิว่าไปเหยียบทำลายข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ ของพวกเขาจนเสียหาย พระพุทธเจ้าได้ทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้แก่พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือนในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ ตรงกับวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒




วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สืบสานประเพณีเข้าพรรษาประจำปี2562

#สืบสานประเพณีเข้าพรรษาประจำปี2562
#ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช
🙏🙏ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมงานพุทธประเพณีเข้าพรรษามหามงคล สานต่อพลังบุญ ฟังธรรมะบรรยายโดยพระอาจารย์เมตตาแสดงธรรม

👉วันเสาร์ที่ 6 ก.ค. หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
👉วันพุธที่ 10 ก.ค. พระราชสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา
👉วันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)
👉วันศุกร์ที่ 12 ก.ค. พระปลัดจรูญ โกสโล วัดสมานมิตร
👉วันเสาร์ที่ 13 ก.ค. พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
👉วันอาทิตย์ที่14 ก.ค. ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ สำนักสงฆ์เวฬุวัน
👉วันพุธที่17 ก.ค. พระอาจารย์สุนันท์ ปัญญานันโท
👉วันเสาร์ที่ 20 ก.ค. พระอาจารย์ศักดา สุนทโร
👉วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

พร้อมร่วมทอดผ้าป่า 99 วัด และรับชมภาพยนตร์ 3 มิติ ได้ตั้งแต่วันที่ 4 - 21 กรกฎาคมนี้ ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 เทอร์มินอล21 โคราช

🙏นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบุญประจำวัน
👉9.00 ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง
👉10.30 ประกวดคุณธรรม
👉15.00 พระอาจารย์แสดงธรรม
👉17.00 พิธีทอดผ้าป่า 9 วัด และพิธีปุพพเปตพลี
👉18.00 จุดประธีปเวียนเทียน

แล้วมาร่วมทำบุญด้วยกันนะคะ

#Terminal21Korat #Terminal21 #พากินโคราช #เข้าพรรษา #ทอดผ้าป่า #โคราช #นครราชสีมา

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

พระอรหันต์ อยู่ไหน ?

พระอรหันต์ อยู่ไหน ?

เมืองจีนนั้นมีตำนานปรัมปราอยู่เรื่องหนึ่งว่ากันว่า  มีชายหนุ่มคนหนึ่งหลงใหลในเครื่องรางของขลังและผู้วิเศษขุนขลังขมังเวทย์มาก วันหนึ่งเขาได้ข่าวว่ามีพระธุดงค์มาจำพรรษาอยู่บนยอดเขาชาวบ้านเล่าลือกันว่าพระรูปนี้เป็น พระอรหันต์ จึงแตกตื่นพากันไปกราบไหว้วันละเป็นหมื่นคนพอชายหนุ่มได้ข่าว ก็รีบลาแม่เพื่อไปหาพระอริยบุคคลบนยอดเขา

ผู้เป็นแม่นั้นรักลูกมาก  แม้จะอายุมากจนหูตาฝ้าฟาง  แต่เมื่อลูกมาขออนุญาตเธอก็ไม่คิดจะห้าม

“ไปเถอะลูก  ถ้าเป็นความสุขของลูกแม่อยู่คนเดียวได้ ไม่เป็นไรหรอก”

ลูกชายเดินทางเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงถึงยอดเขา  เขารอจนพลบค่ำจึงมีโอกาสได้เข้าไปกราบพระธุดงค์ที่มีหนวดเครายาวเฟื้อยเขาถามเข้าประเด็นทันทีว่า

“หลวงปู่ครับ  คนเขาลือกันว่าหลวงปู่เป็นพระอรหันต์  ผมบุกป่าฝ่าดงมาไกลแสนไกล  เพราะอยากรู้ว่าหลวงปู่เป็นพระอรหันต์จริงหรือไม่  ถ้าจริง  ผมจะได้กราบไหว้อย่างสนิทใจ  แล้วจะไปรับแม่ของผมมากราบหลวงปู่ให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสักครั้งหนึ่ง”

หลวงปู่ตอบว่า  “โยมเอ๋ย  อาตมาไม่ได้เป็นพระอรหันต์อะไรหรอก  คนเขาลือกันอย่างนั้นเอง”

“หลวงปู่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์  แล้วมานั่งให้คนกราบทำไมเล่า”

“อาตมาก็ไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากราบเขามากราบกันเอง  อาตมาก็สงเคราะห์เขาไป”

“ถ้าอย่างนั้นที่ผมเดินทางมาเจ็ดวันเจ็ดคืนนี่ก็เสียเวลาเปล่าน่ะสิครับ”

หลวงปู่ตอบว่า  “โยมไม่เสียเวลาหรอกอาตมาไม่ได้เป็นพระอรหันต์ก็จริง  แต่อาตมารู้ว่าพระอรหันต์มีคุณสมบัติอย่างไร  จำไว้นะ  พระอรหันต์มีคุณสมบัติสองประการหนึ่ง  ชอบสวมเสื้อกลับตะเข็บ  เอาด้านในมาไว้ด้านนอก  สอง  ชอบใส่รองเท้ากลับข้างเอาข้างขวามาใส่เท้าซ้าย  เอาข้างซ้ายมาใส่เท้าขวา  ถ้าเจอคนที่มีคุณสมบัติอย่างนี้ที่ไหนเข้าไปกราบไหว้ได้ทันที  นั่นแหละพระอรหันต์ตัวจริง”

ชายหนุ่มเดินทางกลับบ้านด้วยความผิดหวัง  พอใกล้ถึงบ้าน  เขาตะโกนเรียกหาแม่แต่ไกล  แม่ซึ่งกำลังหุงข้าวอยู่ในครัว  พอได้ยินเสียงลูกก็ทิ้งเตาไฟ  รีบคว้าเสื้อเก่า ๆ ขาด ๆ มาใส่  แล้วสวมรองเท้าด้วยความเร่งรีบ  ก่อนจะวิ่งถลันออกมากอดลูกชายด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ  ลูกชายกอดแม่พลางร้องห่มร้องไห้  น้ำตาไหลอาบไหล่ของแม่

“แม่ครับ  ผมรู้สึกแย่มากที่ถูกหลอกให้ขึ้นไปถึงบนยอดเขาไกลแสนไกล  แม่รู้ไหมไม่มีพระอรหันต์ในโลกนี้หรอกครับ  ผมไม่น่าจากแม่ไปเลย”

พอผละออกจากอ้อมอกแม่  ลูกชายก็สังเกตเห็นว่าแม่ของตนแก่ลงไปมาก  หนำซ้ำยังมีอาการคล้ายคนเลอะเลือน  เห็นได้จากการที่แม่ใส่เสื้อกลับตะเข็บ  กลัดกระดุมผิดเม็ด  และสวมรองเท้าผิดข้าง  ทั้งหมดเกิดจากอารามรีบร้อนวิ่งออกมารับขวัญลูกชายจึงไม่ได้ดูแลเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย

“แม่ดูแก่ไปเยอะเลยนะครับ”

แม่บอกว่า  “แม่แก่ขนาดนี้แล้ว  ลูกจะทิ้งแม่ไปไหนอีกหรือเปล่า”

“ไม่แล้วครับแม่  ผมไม่เชื่ออีกแล้วว่าโลกนี้มีพระอรหันต์”

ว่าแล้วลูกชายก็สวมเสื้อให้แม่ใหม่พลางถอดรองเท้าที่สวมผิดข้างออกให้ด้วยหมายจะสวมให้ถูกข้าง

ระหว่างที่ก้มลงจนหน้าแนบชิดติดเท้าทั้งสองของแม่  เขาก็พลันได้ยินเสียงหลวงปู่แว่วมาเข้าหูว่า…

“โยมไม่เสียเวลาเปล่าหรอกนะ  หลวงปู่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์  แต่หลวงปู่รู้ว่าพระอรหันต์มีลักษณะอย่างไร  จำไว้  ถ้าเจอใครที่สวมเสื้อด้านในกลับมาเป็นด้านนอก  และสวมรองเท้ากลับข้าง  กราบได้ทันที  คนนั้นแหละคือพระอรหันต์ตัวจริง”

ถอดรองเท้าให้แม่ยังไม่ทันเสร็จลูกชายก็รู้สึกสว่างโพลงขึ้นมาในหัวใจ  คิดว่าตัวเองช่างโง่เหลือเกิน  วิ่งระหกระเหินไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมหาสมุทรเพื่อแสวงหาพระอรหันต์  ถูกหลอกมานับครั้งไม่ถ้วนโดยหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงพระอรหันต์ก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง

พ่อแม่ของเราคือพระอรหันต์ในบ้านถ้าไม่มั่นใจว่าพระที่วัดเป็นพระอรหันต์หรือไม่  เพราะเราไม่ได้อยู่กับท่าน  จึงไม่รู้จักท่านทุกแง่ทุกมุม  ก็จงอย่าเสียใจว่าไม่มีพระอรหันต์ให้กราบไหว้  เพราะยังมีพระอรหันต์องค์จริงอีกประเภทหนึ่ง  ซึ่งเป็นพระอรหันต์เฉพาะตนนั่น คือ พ่อแม่ของเราท่านจำพรรษาอยู่ในชายคาเดียวกันกับเรามาตลอดเวลา  สององค์นี้ให้ชีวิต  กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู  และรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขเป็นพระอรหันต์ตัวจริงในชีวิตเรา  แต่คำถามก็คือ  แล้วเราให้เวลาและความสำคัญกับพระอรหันต์สององค์นี้สมกับที่ท่านเป็นปูชนียบุคคลของเราหรือไม่

ก่อนจะไปกราบไหว้พระสงฆ์องค์เจ้าที่ไหน  จงอย่าลืมกราบไหว้พ่อแม่ของเราให้ได้เสียก่อน  นักปราชญ์ท่านบอกว่า “กราบพระหมื่นองค์แสนองค์ก็ไม่นับว่ามีคุณค่า  หากเธอยังไม่เคยกราบพ่อกราบแม่ของตัวเอง”  พระในบ้านนั้นเป็นพระอรหันต์ตัวจริง  เรากราบได้อย่างสนิทใจ  บำรุงได้อย่างเต็มที่  พ่อแม่เป็นเนื้อนาบุญของเราผู้เป็นลูกเป็นหลาน

ระหว่างที่คนกำลังสับสนกันว่าใครเป็นพระอรหันต์จริง ใครเป็นพระอรหันต์ปลอม  เราอย่าไปเสียเวลาสับสนกับเขา  จงมองกลับเข้าไปในบ้านของเรา  พ่อของเราอยู่ตรงนั้น  แม่ของเราอยู่ตรงนั้น…จงถามตัวเองว่า

เรากินอิ่มนอนอุ่น  ท่านกินอิ่มนอนอุ่นเหมือนเราหรือเปล่า

เรามีเงินมีทองใช้  ท่านมีเงินมีทองใช้เหมือนเราหรือเปล่า

เรามียศมีศักดิ์  ท่านมีศักดิ์เหมือนเราหรือเปล่า

เราสุขภาพดี  ท่านสุขภาพดีเหมือนเราหรือเปล่า

ก่อนที่เราจะทำดีกับคนทั้งโลก  อย่าลืมทำดีกับพระอรหันต์คนใกล้ตัวที่สุด  คือพ่อกับแม่เสียก่อน  เป็นการรับประกันได้ว่าเราทำดีไม่ผิดที่

จักรพรรดิกับร้านขายยา


“จักรพรรดิกับร้านขายยา”
............”ขจรศักดิ์”

จักรพรรดิคังซีป่วยเป็นโรคประหลาด แม้แพทย์หลวงในวังจะใช้โอสถดีหรือแพงแค่ไหนรักษา  ก็ไม่ปรากฏว่าอาการจะดีขึ้น  ทรงโกรธมาก  จึงยุติไม่ยอมรับการรักษาใดๆอีกจากแพทย์หลวง

คืนนี้จักรพรรดิคังซีออกท่องราตรีโดยลำพัง  เมื่อเดินผ่านมาถึงตรอกซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง  พบว่ามีร้านขายยาตั้งอยู่ร้านหนึ่ง แม้จะย่างเข้ายามวิกาลแล้ว  แต่ก็ปรากฏว่าไฟในร้านยังคงสว่างไสวอยู่  และยังได้ยินเสียงอ่านหนังสืออย่างชัดเจนดังจากในร้าน  จักรพรรดิทรงคิดว่าในเมื่อแพทย์หลวงในวังไร้ความสามารถ  คนมีฝีมืออาจจะหาได้จากชุมชนทั่วๆไป  เพราะโบราณเคยกล่าวไว้ว่า  “ร้านยาเล็กๆมักมีโสมเลอค่าเก็บรักษาไว้”  ทำไมไม่ลองเข้าไปทดลองใช้บริการสักครั้ง  ว่าแล้ว  จักรพรรดิก็ตรงเข้าไปในร้าน  มีชายอายุไม่น่าถึง 40 ปีนั่งอ่านหนังสืออยู่  ทรงคิดว่า  คนนี้น่าจะเป็นหมอประจำร้าน  พอหมอพบว่ามีแขกมาเยือน  จึงถามว่า  "มีอะไรให้ผมรับใช้ยามดึกครับ"

จักรพรรดิทรงตรัสว่า  "ต้องขออภัยที่ต้องเข้ามารบกวนยามดึก  ข้าป่วยเป็นโรคประหลาด  คันไปทั้งตัว  แล้วยังมีผื่นแดงๆขึ้นตามตัวด้วย  หาหมอที่ไหนก็ไม่หาย  รบกวนหมอช่วยดูแลรักษาให้หน่อย"

"ถ้าเช่นนั้นช่วยถอดเสื้อออกหน่อย  จะได้ตรวจดูอาการ"
เมื่อจักรพรรดิถอดเสื้อออก  หมอมองดูเดี๋ยวเดียวก็บอกว่า  "ท่านไม่ต้องกังวล  ท่านไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรอก  สาเหตุของอาการล้วนมาจากการที่ท่านมักรับประทานแต่อาหารดีๆมากจนเกินความจำเป็นต่อร่างกาย   แล้วยังทานโสมเป็นประจำ  มันจึงเกิดอาการของโรคร้อนในสะสมอย่างรุนแรง  เลยทำให้มีผื่นแดงขึ้นเต็มตัวไปหมด  แล้วยังมีอาการคันไปทั้งตัว"

จักรพรรดิทรงถามว่า  "แล้วมันจะหายขาดไหม"
หมอตอบด้วยความมั่นใจว่า  "ไม่ต้องวิตก  เดี๋ยวจัดยาให้  อีกไม่นานก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง"
ว่าแล้วหมอก็เอื้อมมือไปยกกล่องยาลงมาจากบนหิ้ง  ปูผ้าไว้บนโต๊ะ  แล้วเทยาทั้งหมดออกมา  น่าจะมีน้ำหนักสัก 4 หรือ 5 กิโลกรัม  พอจักรพรรดิเห็นเข้าก็ตกใจ  "หมอ ยาเยอะขนาดนี้จะทานหมดได้ไง"
หมอรีบชี้แจงว่า  "สมุนไพรพวกนี้เป็นโกฐน้ำเต้า  ไม่ได้มีไว้ให้ท่านรับประทาน  แต่ให้เอากลับบ้านไปต้มกับน้ำประมาณ 50 กิโลกรัม  พอต้มจนเดือดแล้ว  ให้เทใส่อ่างน้ำแล้วผสมน้ำธรรมดาให้พอประมาณ  อุณหภูมิให้อุ่นกำลังดี แล้วก็ลงไปนั่งแช่วันละครั้ง  น่าจะแช่สักสามถึงสี่ครั้ง  โรคก็น่าจะหายเอง"

จักรพรรดิคิดในใจว่า  ในเมื่อแพทย์หลวงในวังรักษามานานก็ยังไม่ยอมหาย  สมุนไพรพื้นบ้านแบบนี้จะรักษาให้หายได้จริงเหรอ  หมอเห็นแววตาเขามีความสงสัย  จึงบอกว่า  "ท่านสบายใจได้  ผมไม่ได้จะหลอกเอาเงินท่านหรอก  จงเอาสมุนไพรพวกนี้ไปลองใช้ก่อน  หากไม่หาย  สตางค์แดงเดียวผมก็ไม่คิด"  จักรพรรดิตรัสว่า  "ถ้าเช่นนั้นก็จะลองนำไปทดลองใช้ดู  แต่หากรักษาให้หายได้จริง  รับรองจะมีรางวัลสมนาคุณอย่างงาม"

เมื่อจักรพรรดิกลับมาถึงวัง  ก็ทำตามที่หมอสั่งทุกขั้นตอน  พอก้าวเท้าลงไปในอ่าง  ก็รู้สึกได้ทันทีว่าเนื้อตัวช่างสบายอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากแช่ได้สามครั้ง  อาการคันเนื้อคันตัวก็ค่อยๆหายเป็นปลิดทิ้ง  ผื่นแดงก็ค่อยๆจางหายไปจนหมด  จักรพรรดิทรงยินดีปรีดามาก  วันที่สี่ก็กลับไปหาหมอที่ร้านอีกครั้ง

เมื่อหมอเห็นสีหน้ายิ้มย่องผ่องใสของคนไข้ก็รู้ทันทีว่า  อาการป่วยต้องหายแล้วเป็นแน่แท้  เลยแกล้งถามว่า  "ท่านมาชำระค่ายาใช่หรือไม่"
"ใช่แน่นอน  ไม่ทราบว่าหมอจะคิดค่ารักษาเท่าไหร่"
หมอหัวเราะชอบใจใหญ่  "ล้อเล่นนะครับ คืนนั้นผมเห็นสีหน้าท่านอีหลักอีเหลื่อไม่ค่อยมั่นใจ  จึงแกล้งหยอกไปว่าไม่หายไม่คิดเงิน  ตอนนี้แม้จะหายเจ็บหายป่วยแล้ว  แต่ก็ไม่คิดเงินเช่นกัน  ผมเห็นท่านเป็นคนที่มีบุคลิกโหงวเฮ้งดีเยี่ยม  แค่คิดอยากจะเป็นเพื่อนกับท่านก็เพียงพอแล้ว  ถ้าไม่เป็นการละลาบละล้วงจนเกินไป ผมขอทราบชื่อเสียงเรียงนามท่านหน่อยจะรังเกียจไหม"
จักรพรรดิยิ้มก่อนตอบไปว่า  "ข้าแซ่หวง  ชื่อเทียนซิง เป็นนักศึกษา"
หมอดีใจรีบตอบว่า  "ผมแซ่จ้าว  ชื่อกุ้ยถัง  เป็นนักศึกษาจนๆคนหนึ่ง  พ่ออยากให้ผมไปสอบจอหงวนให้ได้  เพื่อจะสร้างชื่อเสียงให้วงตระกูล  แต่แม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม  ก็ต้องผิดหวังทุกปี  สุดท้ายเลยตัดสินใจมาเปิดร้านขายยาเล็กๆร้านนี้อยู่ในเมืองหลวง  นอกจากมีโอกาสรักษาคนไข้แล้ว  ก็ถือโอกาสทบทวนตำราเรียนเตรียมตัวสอบไปในตัว  แค่หวังว่าสักวันคงได้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการสอบจอหงวนให้ได้"
จักรพรรดิตรัสว่า  "คุณพี่จ้าว  โบราณสอนไว้ว่า  “แม้บนกระดานประกาศผลสอบจะไร้ซึ่งชื่อเรา  แต่ใต้ฝ่าเท้าเราก็ยังมีเส้นทางให้เดินไปข้างหน้าเสมอ”  ด้วยความสามารถด้านการเยียวยารักษาคนไข้เก่งๆอย่างท่าน  ข้าสามารถแนะนำให้ท่านเข้าไปเป็นแพทย์หลวงในวัง  นี่ก็น่าจะถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอ"
หมอยิ้มก่อนตอบว่า  "นั่นไม่ใช่จุดมุ่งหมายของผม  ในความคิดของผม  คนเป็นหมอควรที่จะช่วยเหลือเยียวยารักษาชาวบ้านทั่วๆไป  เพื่อที่จะช่วยบรรเทาทุกข์แก่พวกเขา  หากเข้าไปเป็นแพทย์หลวงในวัง  แม้จะร่ำรวยสุขสบาย  แต่ไม่สามารถรับใช้ชาวบ้านทั่วไป  นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่ผมปราถนา  ไร้ประโยชน์ที่อุตส่าห์ฝึกฝนจนเป็นหมอ"

พอจักรพรรดิได้ยินดังนั้น  จึงตรัสว่า  "ท่านช่างเป็นคนดีที่มีจริยธรรมสูงส่งเหลือเกิน  นับถือจริงๆ  แต่ในเมื่อท่านก็ลองสอบจอหงวนไปแล้วตั้งหลายครั้ง  แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ  แล้วทำไมไม่หันมาเอาดีทางด้านการเยียวยารักษาให้จริงจังไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ"
หมอตอบว่า  "ผมก็เคยคิดเช่นนั้นเหมือนกัน  แต่การเป็นหมอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา  ร้านยาเล็กๆร้านนี้ที่ตั้งอยู่ในตรอกซอย ยากนักที่จะประสบความสำเร็จ จะเปิดร้านใหญ่ทำเลดีก็ต้องมีเงินทุนมากพอสมควร  ผมไม่มีเงินทุนเพียงพอ  มีแต่ความสามารถก็คงยากที่จะเห็นเดือนเห็นตะวัน หากพี่ท่านมีโอกาสร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีสักวันในอนาคต  ก็จงช่วยผมสักแรงเปิดกิจการร้านขายยาใหญ่โตสักร้าน  ถือว่าเป็นค่ารักษาในครั้งนี้ก็แล้วกัน"

พอจักรพรรดิได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ตอบแบบไร้ความลังเล  "หากจะเปิดร้านจะตั้งชื่อว่าอะไรดี  ชื่อ"จ้าวกุ้ยถัง"ชื่อเดียวกับชื่อท่านก็แล้วกัน"
หมอเห็นจักรพรรดิพูดอย่างเอาจริงเอาจัง  จึงรีบตอบกลับไปว่า  "ที่พูดเมื่อสักครู่เป็นการพูดเล่น  อย่าถือเป็นสาระ  จะเปิดร้านขายยาใหญ่โตต้องใช้เงินเยอะ  ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ท่านจะร่ำรวยเป็นเศรษฐี  เป็นเรื่องไกลสุดขอบฟ้า  ไม่กล้าหวังเช่นนั้นเด็ดขาด"

จักรพรรดิตอบว่า  "ทำไมไม่ลองดูเล่า"  พูดแล้วก็หยิบพู่กันที่วางอยู่บนโต๊ะ  แล้วเขียนข้อความลงบนกระดาษ  ประทับตราประจำตัว  แล้วก็ยื่นให้หมอ  "พรุ่งนี้ให้เจ้าไปติดต่อฝ่ายบริหารจัดการของวังหลวง  ข้ามีเพื่อนอยู่ที่นั่น  ยื่นจดหมายฉบับนี้ให้เขา  ไม่แน่ว่าเขาอาจจะให้ความช่วยเหลือเจ้าได้"  เมื่อพูดเสร็จแล้วก็ลากลับทันที

หมอมองดูแขกที่จากไปอย่างรีบร้อน  นึกในใจว่าหมอนี่ช่างเป็นมนุษย์ประหลาดแท้  วันถัดมา  หมอก็อยากลองดูสักครั้ง  จึงนำจดหมายฉบับนั้นตรงไปยังฝ่ายบริหารภายในของวังหลวง  หลังยื่นจดหมายให้เจ้าหน้าที่ไปแล้ว  ครู่เดียวก็มีขันทีท่านหนึ่งออกมาต้อนรับ  พาหมอเข้าไปภายในวัง  แล้วก็มาถึงตึกหลังหนึ่ง  ขันทีเปิดประตูออก  ชี้นิ้วเข้าไปข้างใน  ถามเขาว่า   "หมอครับ  เงินเหล่านี้เพียงพอสำหรับค่ายาไหม"

พอหมอเพ่งดูให้ชัด  ต้องตกใจอย่างมาก  ในห้องนั้นมีแต่เงินเป็นกองๆ  เขายืนนิ่งจนนึกว่ากำลังฝันไปหรือเปล่า  ขันทีบอกว่า  "คุณหมอครับ  จักรพรรดิท่านรับสั่งไว้ว่า  คุณหมอช่วยรักษาโรคให้ฝ่าบาทจนหายเป็นปลิดทิ้ง  ไม่ยอมเก็บเงินสักแดง  ฝ่าบาทจึงตั้งพระทัยจะมอบร้าน "จ้าวกุ้ยถัง" ให้ท่านได้สมหวังสักที"

หมอเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน  แท้จริงคนที่ตนแค่อยากเป็นเพื่อนด้วย กลับกลายเป็นจักรพรรดิที่อยู่เหนือหัว  อยากตำหนิตัวเองเหลือเกินว่า  “มีตาหามีแววไม่”

หลังจากนั้นไม่นาน  ร้านขายยาใหญ่ๆร้านหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในทำเลชั้นเยี่ยมของเมืองปักกิ่ง  ชื่อว่า "จ้าวกุ้ยถัง"

ในวันทำพิธีเปิดร้าน  ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจักรพรรดิคังซีท่านก็เสด็จมาร่วมงานด้วยพระองค์เอง  ทำให้หมอลนลานไปหมด  จักรพรรดิหัวเราะชอบใจในความตื่นเต้นของหมอ  "อย่าได้ตกใจ  ค่ารักษาที่ติดค้างหมอไว้  บัดนี้ได้จ่ายให้หมดแล้ว  แต่ถ้าข้ามาหาหมออีกเมื่อไหร่  ก็อย่าได้คิดค่ารักษาข้าอีกนะ"

หลังจากวันนั้น  ในกรุงปักกิ่งก็มีร้านขายยาที่โด่งดังแบบไม่มีใครไม่รู้จัก  นามว่า  "จ้าวกุ้ยถัง" ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองหลวง

นี่เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังนานมาแล้วในเมืองจีน  มันสอนให้รู้ว่า  "คนซื่อ  ใจซื่อ  คนดี  ใจดี  มักจะมีดีตอบ"

www.facebook.com/Flintlibrary
“ขจรศักดิ์”
แปลและเรียบเรียง

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ชมพระไตรปิฎก ของจริงอายุ 2100 ปี จากศรีลังกา


ชมนิทรรศการวิสาขบูชา เดอะมอลล์โคราช พุทธธรรม...แก่นธรรม...แก่นแท้ ชมพระไตรปิฎก ของจริงอายุ 2100 ปี จากศรีลังกา ถือเป็นบุญตาแท้ๆ ที่ได้เห็นภาพจารึก ประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในงานบุญยิ่งใหญ่ที่โคราช เมื่อ “เลขาสมเด็จพระสังฆราช” จากประเทศศรีลังกา เป็นตัวแทนคณะสงฆ์อัญเชิญพระไตรปิฎก อายุกว่า 2100 ปีเพื่ออันเชิญประดิษฐานในงาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี ประจำปี 2562” ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเดอะมอลล์โคราช เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ชมและสักการะเป็นบุญตาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย สำหรับงาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี” เริ่ม 2 พ.ค.- 2 มิ.ย.2562 จัด 32 วันนานที่สุดในโลก โดยขอเชิญพุทธศาสนิกชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ 9 พระองค์จาก 4 ประเทศ ไฮไลท์ฟังธรรมบรรยายทุกวัน ร่วมพิธี“กวนข้าวมธุปายาส”หรือ“กวนข้าวทิพย์” ร่วมรำลึก“วันอัฏฐมีบูชา” โดยทางเพจ วิสาขบูชา พุทธบารมี ได้ระบุกิจกรรมงานมหามงคลในครั้งนี้ว่า พระไตรปิฎก ฉบับภาษาสิงหล จากประเทศศรีลังกา อายุ 2,100 ปี อัญเชิญถึงมณฑลพิธี เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช เพื่อประดิษฐานภายในงาน ให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการะในงาน วิสาขบูชา พุทธบารมี ประจำปี 2562 “ปรารถนาเพียงได้นำพระไตรปิฎกออกจากตู้ มาสู่ใจให้สาธุชนได้น้อมนำไปปฏิบัติ” 2 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. 2562 นี้

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

รถเสีย

ท่านใดขับรถไปเสียที่ไหน ในประเทศไทย
โทร. 02-354-6324 เป็นเบอร์โครงการหน่วย ตำรวจช่าง ในโครงการ พระราชดำริ สามารถช่วยท่านได้ทุกที่ จะโทรสอบถามอาการ แล้วเตรียมพร้อมที่จะมาช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปต่อได้

จ่ายเงินเฉพาะ ค่าอะไหล่ ที่นำมาให้
ไม่รับเงินค่าอื่นๆ แค่ขอถ่ายรูป

1 อุบลราชธานี 0-4535-2600-09
2 นครราชสีมา 0-4242-0250-99
3 ขอนแก่น 0-4324-0250-98
4 เชียงใหม่ 0-5392-0750-51
5 พิษณุโลก 0-5523-6400
6 นครปฐม 0-3424-0650
7 สุราษฎร์ธานี 0-7727-7600
8 อุดรธานี 0-4221-5750-99
9 ชลบุรี 0-3893-2600-08
10 สงขลา 0-7431-7301-30
11 ปทุมธานี 0-2598-8191
12 พระนครศรีอยุธยา 0-3524-9750
13 ฉะเชิงเทรา 0-3850-0099
14 ศรีสะเกษ 0-4582-9799
15 ร้อยเอ็ด 0-4361-9799
16 เชียงราย 0-5391-0788
17 นครสวรรค์ 0-5621-9099
18 นครศรีธรรมราช 0-7530-4600
19 พัทลุง 0-7460-9977
20 กาญจนบุรี 0-3452-7600-49
21 ลำปาง 0-5423-7090
22 ระยอง 0-3892-8090
23 สภ.หัวหิน 0-3261-8090
24 ภูเก็ต 0-7636-0790
25 นราธิวาส 0-7351-7990
26 ราชบุรี 0-3271-9798
27 กาฬสินธุ์ 0-4380-9799
28 เพชรบูรณ์ 0-5671-7799
29 ปัตตานี 0-7334-5999
30 สระบุรี 0-3624-0698
31 สมุทรสาคร 0-3441-9780
32 สมุทรปราการ 0-2338-0090
33 จันทบุรี 0-3931-9790
34 ยะลา 0-7322-0890
35 ตรัง 0-7520-1990
36 กระบี่ 0-7562-7900
37 กำแพงเพชร 0-5571-8490
38 ลำพูน 0-5356-9790
39 บุรีรัมย์ 0-4460-4090
40 นครพนม 0-4253-9790
41 นนทบุรี 02-528-7490
42 สุพรรณบุรี 035-514-000
43 ชัยนาท 056-459-639
44 ลพบุรี 036-418-900
45 ชัยภูมิ 044-815-000
46 พิจิตร 056-609-739
47 ตาก 055-518-000
48 สุโขทัย 055-609-739
49 แพร่ 054-539-739
50 พะเยา 054-409-739
51 น่าน 054-683-000
52 เลย 042-808-739
53 หนองบัวลำภู 042-318-739
54 หนองคาย 042-415-000
55 สกลนคร 042-700-739
56 มุกดาหาร 042-629-739
57 ยโสธร 045-709-739
58 สุรินทร์ 044-710-739
59 สระแก้ว 037-240-740
60 ปราจีนบุรี 037-239-098
61 นครนายก 037-307-000
62 สมุทรสงคราม 034-719-740
63 เพชรบุรี 032-709-740
64 ชุมพร 077-529-739
65 พังงา 076-401-439
66 สตูล 074-709-739
67 ระนอง 077-819-739
68 สิงห์บุรี 036-509798-99
69 อ่างทอง 035-617098-99
70 ตราด 039-552900-01
71 อำนาจเจริญ 045-519200-01
72 มหาสารคาม 043-719698-99

ฝากแชร์กันต่อๆด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562

อย่าห้าว อย่าเหี้ย ในเทศกาลสงกานต์

สงกรานต์วันแรก....
บอยโดนกลุ่มวัยรุ่นหลังวัดกระทืบ
เพราะไปจับนมเมียเขา
บอยกลับมาบอกเพื่อนๆว่า
โดนพวกนั้นหาเรื่อง
สงกรานต์วันที่2
กลุ่มของบอยนั่งท้ายกะบะ
เล่นสาดน้ำในเมือง
ไปเจอกลุ่มที่กระทืบบอยเมื่อวาน
ด้วยความมึนเมาได้ที่
มีพรรคพวกมาด้วยเยอะ
เพื่อนบอยอยากแสดง
ความเป็นผู้นำแบบโง่ๆ
หยิบขวดเบียร์ได้
เดินไปตีหัวคนที่กระทืบเพื่อนเขาเมื่อวาน
ขวดแตกเขาแทงปากฉลามไปที่คอคนนั้น
ดับคาที่ ตายจมกองเลือด
ในวันสงกรานต์ที่แสนสนุก
แทงเสร็จ
วิ่งหนีไปได้ไม่ไกล
โดนไล่จับได้ หลายคนประชุมตีน
ก่อนส่งตำรวจ
สุดท้าย....
เขาโดนตัดสินฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ครอบครัวทรุดลง
กองกับพื้นคาศาล
จากนี้ จะไม่ได้กินข้าว
ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว
พ่อน้ำตานองหน้า แม่มองหาอนาคตไม่เจอ
อายุมาก อยากฝากผีฝากไข้
ลูกชายคนเดียวต้องมา...ติดคุก!
ญาติพี่น้องต่างทำใจ
ได้แค่สั่งไว้ว่าจะดูแลพ่อแม่แทนให้
ติดคุกอยู่ในที่ที่ไร้อิสระ
พ่อตาไม่ค่อยดี แม่ก็ปวดขา
ทุกเดือนต้องจ้างรถข้างบ้าน
พามาเยี่ยมลูกรัก อยากเห็นหน้า
เพื่อนที่เคยบอกรักนักรักหนา
หนีหน้า ไม่โผล่มาเยี่ยม...สักตัว!
ติดคุกไปได้ไม่นาน
เมียที่เคยสัญญาจะรักกันจนวันตาย
สุดท้ายก็ไปได้กับเพื่อนของผัวตัวเอง!
คนต้นเรื่อง
นอนเปิดแอร์ดูทีวีกกเมียเพื่อน
ส่วนอีกคน
ต้องตักขี้ มีตรวนพันธนาการ
เข้าหลายปีอะไรๆก็เปลี่ยนไป
แม่รักแสนรักแค่ไหนก็รอไม่ไหว
จากลูก จากโลกไป
เพราะวัยชรา
แม้งานศพแม่ตัวเอง
ก็ยังไม่ได้มา....อนาคตริบหรี่ไม่มีหวัง
แม่ไม่อยู่ พ่อก็ยังจะป่วยไข้
ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลรักษา
บ้านที่มีทั้งที่นา
หมดไปกับค่าทนายวิ่งเต้นคดี
จนตอนนี้ที่สุดพ่อมาจาก
ตายลำบาก ลำพังอย่างเวทนา
ใกล้จะสงกรานต์แล้ว
จึงอยากเขียนเรื่องราวเหล่านี้ไว้เตือนสติ
อย่าห้าว อย่าเหี้ย
เพื่อนมึงมันรักมึงแค่ไหน
มันก็ตายแทนมึงไม่ได้
โลกนี้มีแค่พ่อแม่ที่รักมึงจริงๆ
คนที่มึงควรตายแทนให้
คือพ่อแม่
เพื่อนดีๆ มันต้องห้ามกัน
ห้ามเพื่อนไม่ให้ทำอะไรเลวๆ
ส่วนเพื่อนเลวๆ
มันไม่เคยชวนกันไปทำอะไรดีๆ
เพื่อนที่มันรักมึงจริงๆ
มันต้องห้าม ต้องตักเตือนกัน
จำไว้น้อง
มึงติดคุกไป เมียมึงก็มีผัวใหม่
และผัวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนมึงนั่นแหละ
มันคอยปลอบโยนคอยเอาใจ
สุดท้ายใจคนก็เปลี่ยนไป
20ปีไม่มีใครรอมึงหรอก
แม้แต่พ่อกับแม่ก็ฝืนสังขารรอไม่ไหว
มึงคิดดูว่างานศพพ่อแม่
มึงก็ออกมาไม่ได้
ได้แต่นอนร้องไห้อยู่ในคุก!!
ใครมีเรื่องกับใคร
ใครจะตีกับใคร ช่างมัน
พาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้น
ก่อนจะไม่ทันได้ไปนอนในคุก
ไม่ต้องเสือกอยากเด่นดังทางนักเลง
คนเก่งๆ ตายห่าไปหมดแล้ว
ทางนักเลงอันธพาล
ไม่เห็นมีใครได้ดีสักคนเดียว!
มึงอยากอยู่บ้านนอนดูทีวี
บนเตียงนุ่มๆ หรืออยากติดคุก
นอนให้นักโทษข่มขืน สอยตูดมึงในคุก
มึงเลือกเอาเอง!
หากชอบ แชร์ได้เลย ไม่ต้องขอ
#กูก็ก็อปเขามาอีกที

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒



สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ 
.
วันนี้ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒) เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาปรุงแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ด้วยพระองค์เอง และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์พร้อมความหมายเพื่อใช้ในการเผยแพร่งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ในการนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ตั้งโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องสักการะ และขอเชิญชวนประดับตราสัญลักษณ์ ตามอาคารสถานที่ และบ้านเรือนเพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน
.
สำหรับหลักเกณฑ์การเชิญตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ไปประดิษฐานหรือประดับในสิ่งของต่าง ๆ มีดังนี้
.
๑. #ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ โดยใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องงานพระราชพิธีฯ ประดับบนผืนธง ประดับบนซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ประดับบนป้ายเฉลิมพระเกียรติ ประดับบนโต๊ะหมู่บูชา ประดับตามอาคารสถานที่ บ้านเรือน และสถานที่ราชการ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความจงรักภักดีในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งในครั้งนี้ โดยประดับในห้วงเวลาตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓
.
๒. #ใช้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยเป็นการเชิญตราสัญลักษณ์ฯ มาประดิษฐานเป็นการถาวร ได้แก่ อาคารสิ่งปลูกสร้างที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ประดับบนสิ่งของ เช่น เสื้อ และหมวก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ
.
#สิ่งที่ไม่อนุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ไปใช้ประดับ เช่น แก้วน้ำ ขวดแก้ว จาน ชาม ช้อน แจกัน เหยือกน้ำ (เนื่องจากเป็นของแตกสลายได้) กำไล จี้ กล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ยกเว้นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการจัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
.
สำหรับหน่วยงานของรัฐ องค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ชมรม หรือ บริษัท/ห้าง/ร้านที่มีความประสงค์จะเชิญตราสัญลักษณ์ไปประดับหรือประดิษฐาน ให้มีหนังสือแจ้งความประสงค์พร้อมแบบคำขอใช้ตราสัญลักษณ์ ไปที่ คณะอนุกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐ โทร. ๐ ๒๒๘๓ ๔๒๒๘ - ๙ โทรสาร ๐ ๒๒๘๓ ๔๒๔๘ - ๙ ระหว่างวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (www.opm.go.th)
.
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแบบเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ โดยด้านหน้าเป็นแบบตราสัญลักษณ์ ส่วนด้านหลังมีคำว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. ๒๕๖๒” ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการจัดทำเข็มที่ระลึกฯ เพื่อจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนได้อัญเชิญไปประดับในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขึ้นแบบเข็มที่ระลึก ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายเข็มที่ระลึกฯ ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย ในส่วนของเสื้อโปโลสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเสื้อต้นแบบ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้พร้อมกับเข็มที่ระลึกฯ ในช่วงต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๒ โดยในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ จะเปิดจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปเป็นปฐมฤกษ์ จำนวนอย่างละ ๒๐,๐๐๐ ณ อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์
.
#ดาวน์โหลด ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (www.opm.go.th)
#กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กองกลาง
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี