พระอรหันต์ อยู่ไหน ?
เมืองจีนนั้นมีตำนานปรัมปราอยู่เรื่องหนึ่งว่ากันว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งหลงใหลในเครื่องรางของขลังและผู้วิเศษขุนขลังขมังเวทย์มาก วันหนึ่งเขาได้ข่าวว่ามีพระธุดงค์มาจำพรรษาอยู่บนยอดเขาชาวบ้านเล่าลือกันว่าพระรูปนี้เป็น พระอรหันต์ จึงแตกตื่นพากันไปกราบไหว้วันละเป็นหมื่นคนพอชายหนุ่มได้ข่าว ก็รีบลาแม่เพื่อไปหาพระอริยบุคคลบนยอดเขา
ผู้เป็นแม่นั้นรักลูกมาก แม้จะอายุมากจนหูตาฝ้าฟาง แต่เมื่อลูกมาขออนุญาตเธอก็ไม่คิดจะห้าม
“ไปเถอะลูก ถ้าเป็นความสุขของลูกแม่อยู่คนเดียวได้ ไม่เป็นไรหรอก”
ลูกชายเดินทางเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงถึงยอดเขา เขารอจนพลบค่ำจึงมีโอกาสได้เข้าไปกราบพระธุดงค์ที่มีหนวดเครายาวเฟื้อยเขาถามเข้าประเด็นทันทีว่า
“หลวงปู่ครับ คนเขาลือกันว่าหลวงปู่เป็นพระอรหันต์ ผมบุกป่าฝ่าดงมาไกลแสนไกล เพราะอยากรู้ว่าหลวงปู่เป็นพระอรหันต์จริงหรือไม่ ถ้าจริง ผมจะได้กราบไหว้อย่างสนิทใจ แล้วจะไปรับแม่ของผมมากราบหลวงปู่ให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสักครั้งหนึ่ง”
หลวงปู่ตอบว่า “โยมเอ๋ย อาตมาไม่ได้เป็นพระอรหันต์อะไรหรอก คนเขาลือกันอย่างนั้นเอง”
“หลวงปู่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ แล้วมานั่งให้คนกราบทำไมเล่า”
“อาตมาก็ไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากราบเขามากราบกันเอง อาตมาก็สงเคราะห์เขาไป”
“ถ้าอย่างนั้นที่ผมเดินทางมาเจ็ดวันเจ็ดคืนนี่ก็เสียเวลาเปล่าน่ะสิครับ”
หลวงปู่ตอบว่า “โยมไม่เสียเวลาหรอกอาตมาไม่ได้เป็นพระอรหันต์ก็จริง แต่อาตมารู้ว่าพระอรหันต์มีคุณสมบัติอย่างไร จำไว้นะ พระอรหันต์มีคุณสมบัติสองประการหนึ่ง ชอบสวมเสื้อกลับตะเข็บ เอาด้านในมาไว้ด้านนอก สอง ชอบใส่รองเท้ากลับข้างเอาข้างขวามาใส่เท้าซ้าย เอาข้างซ้ายมาใส่เท้าขวา ถ้าเจอคนที่มีคุณสมบัติอย่างนี้ที่ไหนเข้าไปกราบไหว้ได้ทันที นั่นแหละพระอรหันต์ตัวจริง”
ชายหนุ่มเดินทางกลับบ้านด้วยความผิดหวัง พอใกล้ถึงบ้าน เขาตะโกนเรียกหาแม่แต่ไกล แม่ซึ่งกำลังหุงข้าวอยู่ในครัว พอได้ยินเสียงลูกก็ทิ้งเตาไฟ รีบคว้าเสื้อเก่า ๆ ขาด ๆ มาใส่ แล้วสวมรองเท้าด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะวิ่งถลันออกมากอดลูกชายด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ลูกชายกอดแม่พลางร้องห่มร้องไห้ น้ำตาไหลอาบไหล่ของแม่
“แม่ครับ ผมรู้สึกแย่มากที่ถูกหลอกให้ขึ้นไปถึงบนยอดเขาไกลแสนไกล แม่รู้ไหมไม่มีพระอรหันต์ในโลกนี้หรอกครับ ผมไม่น่าจากแม่ไปเลย”
พอผละออกจากอ้อมอกแม่ ลูกชายก็สังเกตเห็นว่าแม่ของตนแก่ลงไปมาก หนำซ้ำยังมีอาการคล้ายคนเลอะเลือน เห็นได้จากการที่แม่ใส่เสื้อกลับตะเข็บ กลัดกระดุมผิดเม็ด และสวมรองเท้าผิดข้าง ทั้งหมดเกิดจากอารามรีบร้อนวิ่งออกมารับขวัญลูกชายจึงไม่ได้ดูแลเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย
“แม่ดูแก่ไปเยอะเลยนะครับ”
แม่บอกว่า “แม่แก่ขนาดนี้แล้ว ลูกจะทิ้งแม่ไปไหนอีกหรือเปล่า”
“ไม่แล้วครับแม่ ผมไม่เชื่ออีกแล้วว่าโลกนี้มีพระอรหันต์”
ว่าแล้วลูกชายก็สวมเสื้อให้แม่ใหม่พลางถอดรองเท้าที่สวมผิดข้างออกให้ด้วยหมายจะสวมให้ถูกข้าง
ระหว่างที่ก้มลงจนหน้าแนบชิดติดเท้าทั้งสองของแม่ เขาก็พลันได้ยินเสียงหลวงปู่แว่วมาเข้าหูว่า…
“โยมไม่เสียเวลาเปล่าหรอกนะ หลวงปู่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ แต่หลวงปู่รู้ว่าพระอรหันต์มีลักษณะอย่างไร จำไว้ ถ้าเจอใครที่สวมเสื้อด้านในกลับมาเป็นด้านนอก และสวมรองเท้ากลับข้าง กราบได้ทันที คนนั้นแหละคือพระอรหันต์ตัวจริง”
ถอดรองเท้าให้แม่ยังไม่ทันเสร็จลูกชายก็รู้สึกสว่างโพลงขึ้นมาในหัวใจ คิดว่าตัวเองช่างโง่เหลือเกิน วิ่งระหกระเหินไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมหาสมุทรเพื่อแสวงหาพระอรหันต์ ถูกหลอกมานับครั้งไม่ถ้วนโดยหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงพระอรหันต์ก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง
พ่อแม่ของเราคือพระอรหันต์ในบ้านถ้าไม่มั่นใจว่าพระที่วัดเป็นพระอรหันต์หรือไม่ เพราะเราไม่ได้อยู่กับท่าน จึงไม่รู้จักท่านทุกแง่ทุกมุม ก็จงอย่าเสียใจว่าไม่มีพระอรหันต์ให้กราบไหว้ เพราะยังมีพระอรหันต์องค์จริงอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นพระอรหันต์เฉพาะตนนั่น คือ พ่อแม่ของเราท่านจำพรรษาอยู่ในชายคาเดียวกันกับเรามาตลอดเวลา สององค์นี้ให้ชีวิต กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู และรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขเป็นพระอรหันต์ตัวจริงในชีวิตเรา แต่คำถามก็คือ แล้วเราให้เวลาและความสำคัญกับพระอรหันต์สององค์นี้สมกับที่ท่านเป็นปูชนียบุคคลของเราหรือไม่
ก่อนจะไปกราบไหว้พระสงฆ์องค์เจ้าที่ไหน จงอย่าลืมกราบไหว้พ่อแม่ของเราให้ได้เสียก่อน นักปราชญ์ท่านบอกว่า “กราบพระหมื่นองค์แสนองค์ก็ไม่นับว่ามีคุณค่า หากเธอยังไม่เคยกราบพ่อกราบแม่ของตัวเอง” พระในบ้านนั้นเป็นพระอรหันต์ตัวจริง เรากราบได้อย่างสนิทใจ บำรุงได้อย่างเต็มที่ พ่อแม่เป็นเนื้อนาบุญของเราผู้เป็นลูกเป็นหลาน
ระหว่างที่คนกำลังสับสนกันว่าใครเป็นพระอรหันต์จริง ใครเป็นพระอรหันต์ปลอม เราอย่าไปเสียเวลาสับสนกับเขา จงมองกลับเข้าไปในบ้านของเรา พ่อของเราอยู่ตรงนั้น แม่ของเราอยู่ตรงนั้น…จงถามตัวเองว่า
เรากินอิ่มนอนอุ่น ท่านกินอิ่มนอนอุ่นเหมือนเราหรือเปล่า
เรามีเงินมีทองใช้ ท่านมีเงินมีทองใช้เหมือนเราหรือเปล่า
เรามียศมีศักดิ์ ท่านมีศักดิ์เหมือนเราหรือเปล่า
เราสุขภาพดี ท่านสุขภาพดีเหมือนเราหรือเปล่า
ก่อนที่เราจะทำดีกับคนทั้งโลก อย่าลืมทำดีกับพระอรหันต์คนใกล้ตัวที่สุด คือพ่อกับแม่เสียก่อน เป็นการรับประกันได้ว่าเราทำดีไม่ผิดที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น